วันพุธที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ผู้หญิงรู้ทัน บาร์โธลิน

สวัสดีค่ะ . .

 ก่อนอื่น ต้องบอกเลยว่า สำหรับคนที่รู้จักโรคนี้ก็คงไม่ต้องอธิบายอะไรกันมากนะค่ะ แต่! สำหรับคนที่ไม่รู้จักก็มาทำความรู้จักกันเลย ^^

ต่อมบาร์โธลินคืออะไร ?

  
ต่อมบาร์โทลิน (Bartholin gland) คือต่อมที่อยู่บริเวณข้างซ้าย ข้างขวาของรอยต่อข้างในแคม หรือถ้าเปรียบแคมเป็นนาฬิกา บริเวณของต่อมบาร์โทลิน จะอยู่บริเวณ นาฬิกา และ นาฬิกา เราไม่สามารถเห็นต่อมนี้ได้ด้วยตาเปล่า แต่จะสังเกตุต่อมนี้ได้เมื่อต่อมนี้เกิดปัญหาขึ้น เช่น เป็นถุงน้ำ หรือซีสต์ หรือบวมแดงอักเสบ จะทำให้รู้สึกเป็นก้อนเจ็บอาจจะกลิ้งไปมาเล็กน้อยหรือเป็นก้อนนิ่งอยู่ บริเวณดังกล่าว ต่อมนี้มีหน้าที่ผลิตสารคัดหลั่ง แต่ไม่เฉพาะต่อมดังกล่าวที่ผลิตสารคัดหลั่งเท่านั้น บริเวณ ปากมดลูก ผนังช่องคลอด หรือบริเวณโพรงมดลูก ก็สามารถผลิตสารคัดหลั่งได้เช่นกัน แต่ต่อมบาร์โทลินจะเป็นต่อมหลักในการผลิตสารคัดหลั่งในช่องคลอด
ต่อม บาร์โทลินอุดตันหรืออักเสบนี้จะพบมากกับผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์สม่ำเสมอ หรือคุณผู้หญิงบางคนอาจจะเคยแช่น้ำคลองบ่อย หรือนานๆ แล้วมีอาการคันด้วย น้ำคลองที่ไม่ค่อยสะอาดอาจมีเชื้อโรคปนอยู่ ก็ทำให้ต่อมนี้อักเสบอุดตันจนเกิดกระเปาะ หรือถุงน้ำขึ้น ในกรณีที่เป็นมาก อาจเป็นซีสต์ขึ้นมาได้ บางครั้งถ้ามีการอักเสบ มีเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วยก็ทำให้เกิดเป็นหนองได้ แต่ถ้าการอักเสบเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยก็จะมีอาการบวมแดงร้อนตรงบริเวณนั้น ได้เช่นกั
  การ รักษาเริ่มตั้งแต่การใช้ยาบรรเทาความเจ็บปวด ยาปฏิชีวนะแก้อาการอักเสบในกรณีที่มีการระคายเคืองอักเสบเล็กน้อยหรือแค่บวม ๆ เท่านั้น ซึ่งเมื่อได้รับยาปฏิชีวนะแล้วการอักเสบมักจะหายไป แต่ถ้าตรวจแล้วกระเปาะหรือก้อนบริเวณต่อมบาร์โทลินนี้มีการอักเสบเต่งเต็ม ที่ใกล้แตก คุณหมอก็จะทำการกรีดเอาหนองออก หรือให้หนองแตกตามธรรมชาติเอง แต่ในบางรายที่ก้อนบริเวณดังกล่าวค่อนข้างใหญ่แต่ยังไม่แตก คุณหมอก็อาจทำการดูดหนองหรือกลัดหนองออก และให้ยาปฏิชีวนะแก้อักเสบฆ่าเชื้อหนองร่วมด้วย และต้องส่งหนองที่ดูดออกไปตรวจหาเชื้อโรคว่าเป็นเชื้อหนองตัวไหนตอบสนองกับ ยาปฏิชีวนะอะไร ซึ่งการรักษาดังกล่าวสามารถทำได้แบบผู้ป่วยนอก ไม่จำเป็นต้องทำการรักษาในห้องผ่าตัด

คำ แนะนำในการป้องกันการอักเสบของต่อมนี้คือ การดูแลความสะอาดอยู่เสมอ  ไม่ควรหมักหมมในการใช้ผ้าอนามัยหรือแผ่นอนามัย และควรระวังเรื่องความสะอาดของสระนำ ที่สำคัญคือไม่ควรปัสสาวะขณะอยู่ในสระนำหรือลำคลอง
เรียบเรียงโดย: mata
ที่มา: http://thaiherbclinic.com
ขอบคุณภาพประกอบ http://topicstock.pantip.com 



 จากประสบการณ์ . . . 

เราอายุ20 แล้วนะตอนนี้ ตอนที่เกิดเรา19 ปี1 เมื่อประมาณปีที่ 2-3 ปีที่แล้ว เราก็นั่งดูทีวีปกติค่ะ เราเริ่มรู้สึกแปลกๆตรง 5 นาฬิกา บริเวรช่องคลอด เรารู้สึกได้ว่ามันกลมๆเหมือนลูกแก้ว เลยโทรหาแม่ แม่ก็บอกว่าอาจจะปวดมดลูกหรือเปล่าเพราะตอนนั้นเรามีประจำเดือนด้วยนะค่ะ แม่เลยบอกให้ไปซื้อยาแก้อักเสบเพราะตัวเราเองก็ไม่กล้าบอกอาการแม่ไปทั้งหมด อะนะ ก็เขินแหละ หลังจากกินยาเข้าไปก็ปกติหลับได้สบายดีตื่นเช้าอากาศสดใส <..< ผ่านไป 2-3 เดือน มันก็กลับมา แต่ มันไม่ได้กลับมาเพียงความเจ็บปวดแล้วก็หายไปเหมือนครั้งที่แล้วนะค่ะ ครั้งนี้มันมาครั้งใหญ่เลย ตอนนั้นเรารู้สึกว่า เวลานั่งปวดต้องนั่งตะแคง ไม่กล้าลงน้ำหนักไปที่ฝั่งขวาเยอะเพราะเจ็บ ครั้งแรกเราก็ไม่ทราบหรอกว่ามันจะกลับมา มารู้ตอนเราเรียนเสร็ยแล้วกำลังจะไปกิน้าวกับเพื่อน ตอนกำลังตะนั่งเท่านั้นแหละ สะดุ้งเฮือกเลยย บอกตามตรงตอนนั้นกลัวคนจะรู้เลยต้องฝืนเท่าที่ได้ พอเรากลับมาที่หอ เราก็มาสังเกตุ พุดเลยว่าเป็นกังวล โรคบ้าอะไรไม่เคยเจอ --" เราก็เช็คดู มันมีอาการบวมเปล่ง แต่ยังไม่ถึงกับจะแตก เราก้ไม่คิดอะไรเลยแบกร่างไปคลีนิคธรรมดา หมอก็บอกมาว่า อ๋อ มันใกล้อักเสบต้องฉีดยา ป้องกันไว้ บลา บลา แกก็ฉีดยาที่ก้นไปแล้วก็รับยามากิน เราก็เชื่อสุดๆ พอกลับมาถึงห้อง ประกฏว่า. . .  เราเป็นไข้หนักกว่าเดิมอีก ตื่นเช้ามา เราก็เสิร์ชหาข้อมูล ขุ่นพระ! ไม่ใช่แค่เราแล้วล้ะที่เป็น แต่ผลที่ต้องเจอคือ หากมีอาการบวมและไข้ร่วมด้วยนั่นแปลว่าเกิดการอักเสบแล้ว ควรไปผ่าตัดเล็กเพื่อระบายหนองออก!!!    ห้ะ! อะไรนะ ผ่าตัดเล็ก ตอนนั้นน้ำตาไหลเลยนะ เพราะในกระทู้อะมันมีแต่คนบอกว่าเจ็บสุดๆ เราเป็นคนกลัวเข็ม กลัวมีดหมอ อะไรหมอๆอะกลัวหมด T^T เราก็เลยตัดสินใจโทรกลับไปที่คลีนิกเพื่อเล่าอาการ เค้าก็บอกกลับมาว่า ก็เข้ามาผ่าสิ จะรอให้มันแตกเองหรอ (ค่ะผ่าแน่แต่ไม่เอากับหมอนี้นะ)  ที่เราไม่ตัดสินใจกรีดกับหมอคนนี้เพราะ คลีนิคไม่น่าเชื่อถือ แต่ก็ยอมรับว่าดันทุรังเข้าไปเพราะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กจิ๋ววว . . . อื้มมมม ก้อนนะจิ๋วแต่ความเจ็บนี่ขยายยยวงกว้างมากๆๆๆๆๆ หลังจากนั้นเราก็ใช้เวลาทำใจอยู่นานมากเพื่อรับรู้ความเจ็บปวดจากคอมเม้นต์ต่างๆ 2-3 ชม. ผ่านไป  เราเลยตัดสินใจไป โรงพยาบาล ชื่อโรงพยาบาล แพทย์รังสิต ก็บอกอาการทุกอย่างและขอพบสูตินารี ตอนนั้นน้ำตาไหลเหมือนเด็กแต่ไม่สนใครทั้งนั้นค่ะ เพราะเจ็บเหลือเกิน เจ็บจนอยากจะเอาออกไปให้พ้นๆ เราก็นั่งรอคิว พอถึงคิวก็ถอนหายใจและบอกตัวเองว่าเดี๋ยวก็หาย . . .  

หมอก็จะทำการ กรีดและบีบๆ บอกตรงๆว่าหมอผู้ชายนะคะ มือค่อนข้างหนัก แต่เราไม่สามารถแคร์อะไรได้อีก เพราะอยากหายเจ็บมันทรมานมากไป ตอนนั้นเป็นหนองแล้วคะ พอเค้ากรีดเสร็จ ก็เย็บแผลปกติแต่พีคคือ หนองก็เป็นยาชาดันไม่ทำงานเลยต้องทนกัดผ้าไป . . . . 

พอผ่าเสร็จหมอก็จะให้ยามาทาน ก็ต้องทานอย่างเคร่งครัดเพราะอยากหาย พอหายไปได้สัก 2-3 เดือน ก็กลับมาเป็นอีก จนตัวเองมีแต่ความกังวล ไม่สามารถใช้ชีวิตมีความสุขได้ พูดเลยว่าผ่านการ ผ่าตัด ดูดน้ำออก ทำทุกอย่างคะ เพราะเป็นต่อเนื่องจนไม่สามารถใช้ชีวิตปกติได้เลย จนวันนึงเราเครียดไปหาโรงพยาบาลดังๆ ก็เสียงเดียวกันว่า "ไม่มีทางหาย " จริงๆแค่ได้ยินก็หมดหวังคะ หมดมาก ไม่มีเรี่ยวแรงทำอะไรต่อ เราก็เครียดมาก เครียดจนไม่เป็นอันทำอะไร ร้องไห้เกือบทุกวัน มันทุกข์จนไม่เป็นสุข เพราะความเจ็บ 

ผ่านไป 4 เดือนกว่าๆ เราก็บอกกับที่บ้านว่าเป็นแบบนี้ทนไม่ไหวแล้วนะ เหนื่อย บลา บลา บลา จนลุงที่เรานับถือแกรุ้จักกับหมอท่านนึงบอกว่า โอ้ย "โรคนี้หายกันมากมาก แกทำประจำ " หูผึ่งเลยคะ มีหวังแล้ว ดีใจมาก. เราก็ตัดสินใจหลับบ้านคือลงไป ภูเก็ต คุยกับที่บ้านว่าผ่าเลยไม่ทนแล้ว ตอนนั้นหายแล้วนะคะ แต่ไม่ได้หายขาด เราเลยติดต่อทำทุกอย่างกับทางโรงพยาบาล อันดับแรกเค้านัดเราไปคุยก่อน ตกลงวันที่จะผ่ากัน เราก็ตกลงว่าจะผ่าในวันรุ่งขึ้น . . .

บอกก่อนว่าของเราเป็นผ่าตัดใหญ่ โดยการเอาซีสต์ออกไปเลย จึงต้องใช้ยาสลบ และนอนพักโรงพยาบาล1คืนคะ หลังจากนั้นก็มีการตรวจดูแผลและดูอาการเรื่อยๆ ปรากฎว่า "หายคะ" หายมานานมากด้วย ผ่านมา จะ3ปีแล้ว ยังไม่รู้สึกอะไรและยังทำอะไแบบมั่นใจๆโดยไม่กังวลเลย . . .

ตอนนี้สบายมากคะ ใช้ชีวิตแบบคล่องตัวมาก 

ใครที่เป็นอยู่ อย่านอนนิ่งนะคะ ไปหาหมอก่อนที่จะเจ็บไปมากกว่านี้ เพราะการโดนกรีดตอนที่เจ็บๆอยู่มันเป็นอะไรที่ทรมานมาก 


ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ

^^

3 ความคิดเห็น: